[suanboard monotone logo : 2777 bytes]
[header decor line : 64 bytes]
HOME RULE FAVOURITE MEMBER ZONE REACTIVATE FORGET PASSWORD    

SEARCH [icon freecompose : 217 bytes]
[icon register : 195 bytes] สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก : โพสต์รูป, รูปแบบตัวอักษร, ไอคอน, bookmark, ค้นหาข้อความ ฯลฯ [icon login : 178 bytes]

[icon-delete : 101 bytes]
" พืชถิ่นเดียวและพืชหายากของประเทศไทย "
กันภัยมหิดล
http://www.mahidol.ac.th/muthai/history/afgekia.htm
http://www.panmai.com/university/mahidol/mahidol.htm

22 ก.พ. 49 / 19:53
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
view 313 : discuss 18 : rating - : bookmarked 1 : vote 0 58.10.236.211

#1# - 159247 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] สวัสดีตอนค่ำค่ะ อาจารย์

/me ไหว้งามๆเเบบไทยๆ
22 ก.พ. 49 / 19:59
0 0
นางฟ้าปากมีดโกนจุติ [icon smile : 92 bytes] : n/a : n/a : n/a
followup id 159247 58.8.95.120

#2# - 159252 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ชมพูภูคา
ชมพูภูคาเป็นพันธุ์ไม้ที่เคยมีการสำรวจพบตามหุบเขาตอนใต้ ของประเทศจีน และทางเหนือของเวียดนาม จากนั้นก็ไม่มีรายงานการค้นพบพืชชนิดนี้อีก และมีการค้นพบอีกครั้งในเมืองไทย ที่ดอยภูคา จ. น่าน เมื่อปี 2532 ดังนั้น บริเวณดอยภูคาจึงอาจเป็น แห่งเดียวในโลกที่ยังคงมี ต้นชมพูภูคาหลงเหลือ อยู่ก็เป็นได้

http://203.146.250.87/destination/destination_detail.asp?RecID=12
http://www.mrbackpacker.com/info/park/park_111.html
http://www.nairobroo.com/76/modules.php?name=News&file=article&sid=414

22 ก.พ. 49 / 20:02
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159252 58.10.236.211

#3# - 159254 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] สวัสดีค่ะนางฟ้า มาชมต้นไม้หายากกัน
22 ก.พ. 49 / 20:03
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159254 58.10.236.211

#4# - 159261 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ชมพูภูพิงค์ “ซากุระเมืองไทย”
มีลักษณะคล้ายต้นซากุระของประเทศญี่ปุ่น
ชื่อเรียกอื่น ฉวีวรรณ (ภาคเหนือ) นางพญาเสือโคร่ง (ภาคเหนือ)
เส่คาแว่ เส่แผ่ เส่ลาแหล่ (กระเหรี่ยง - เชียงใหม่)

http://www.qsbg.org/index48.asp
http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?stcolumnid=1361&stissueid=2479&stcolcatid=2&stauthorid=55

22 ก.พ. 49 / 20:19
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159261 58.10.236.211

#5# - 159266 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ในปัจจุบันยังไม่มีการรวบรวมรายชื่อพืชหายากและใกล้จะสูญพันธุ์ในประเทศไทย เนื่องจากการสำรวจพรรณพฤกษชาติของประเทศไทย (Flora of Thailand) เท่าที่ผ่านมายังไม่ทั่วถึง มีหลายท้องที่ที่นักสำรวจไม่สามารถเข้าไปได้ บางแห่งมีปัญหาผู้ก่อการร้าย เทือกเขาสูงชัน การคมนาคมเข้าไม่ถึง ฯลฯ พรรณพืชจำพวกที่มีท่อลำเลียง (vascular plants) ของไทยเท่าที่สำรวจพบ มีประมาณ 10,000 ชนิด คาดว่าเมื่อมีการสำรวจทางพฤกษศาสตร์และศึกษาทบทวนพันธุ์ไม้ต่อไป จำนวนพืชจะต้องเพิ่มขึ้น ดังจะเห็นได้จากเมื่อมีการสำรวจและเก็บตัวอย่างพันธุ์ไม้เฉพาะพื้นที่แบบต่อเนื่อง มักจะพบพันธุ์ไม้ที่พบครั้งแรกของประเทศ (new record) หรือพันธุ์ไม้ชนิดใหม่ของโลก (new species) อยู่เนืองๆ ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิภาคเขตร้อนชื้น พื้นที่อุดมไปด้วยป่าดงดิบซึ่งมีพรรณไม้อยู่หลากหลายชนิดขึ้นอยู่ในแหล่งที่อยู่ (habitat) ต่างๆ กัน แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าปัจจุบันป่าธรรมชาติได้ถูกทำลายลงอย่างมหาศาล แหล่งที่อยู่ของพืชในระบบนิเวศน์ต่างๆย่อมถูกทำลายลงหรือเปลี่ยนสภาพไป เป็นผลให้พืชพรรณนานาชนิดซึ่งเป็นทรัพยากรของประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษย์ในวันข้างหน้า เสี่ยงต่อการถูกทำลายและสูญพันธุ์ไปก่อนที่จะได้นำมาใช้ประโยชน์อย่างมหาศาลในการพัฒนาประเทศสืบไป

พืชหายากและใกล้จะสูญพันธุ์

เมื่อกล่าวถึงพืชหายากและใกล้จะสูญพันธุ์นั้น บางท่านอาจจะยังไม่เข้าใจถึงความหมายว่าพืชใดเป็นพืชหายากหรือพืชใดเป็นพืชที่ใกล้จะสูญพันธุ์ จึงขอทำความเข้าใจโดยยกเอาคำจำกัดความที่ IUCN Plant Red Data Book ได้กำหนดพืชไว้ตามลำดับขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ คือ

Extinct หมายถึง พืชที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่น จากการศึกษาจากซากดึกดำบรรพ์ (fossils) ของพืชทางภาคเหนือของประเทศไทย โดย ดร. Seido Endo ชาวญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1962 โดยศึกษาจากซากดึกดำบรรพ์ บริเวณอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน พบพืชที่เป็นซากดึกดำบรรพ์ ซึ่งปัจจุบันไม่พบในไทยแล้วหลายชนิด ดังเช่น Alnus thaiensis (Betulaoeae), Sparganium thaiensis (Sparganiaceas) เป็นต้น พืช 2 ชนิดนี้ เป็นพืชในเขตอบอุ่น ซึ่งมีภูมิอากาศแตกต่างจากเขตร้อนอย่างสิ้นเชิง เมื่อสภาพภูมิอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันก็ย่อมทำให้พืชล้มหายตายจากสูญพันธุ์ไปได้

ในทางปฏิบัติแล้วพืชที่จัดอยู่ในลำดับนี้ เป็นพืชที่ค้นหาไม่พบแล้วในพื้นที่ที่เคยมีรายงานว่าพบพืชนี้ รวมทั้งบริเวณที่มีสภาพนิเวศน์คล้ายกับพื้นที่ที่พืชเคยปรากฏ ภายหลังจากที่ทำการสำรวจหลายครั้งหลายครา และยังรวมถึงพืชที่สูญพันธุ์ไปจากป่าธรรมชาติ แต่มีการนำมาปลูกไว้เพื่อการอนุรักษ์

Endangered หมายถึง พืชที่กำลังอยู่ในภาวะอันตรายที่ใกล้จะสูญพันธุ์ไปจากโลก หรือสูญพันธุ์ไปจากแหล่งที่มีการกระจายพันธุ์อยู่ หรือพืชที่ไม่น่าจะมีชีวิตอยู่ได้ถ้าอิทธิพลต่างๆ ที่เป็นสาเหตุให้พืชสูญพันธุ์ยังคงดำเนินต่อไป นอกจากนี้ยังรวมถึงพืชที่ลดจำนวนลงถึงขั้นวิกฤตหรือพืชที่แหล่งที่อยู่ถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งจะเป็นเหตุทำให้พืชนั้นสูญพันธุ์ไปอย่างรวดเร็ว เช่น พลับพลึงธาร Crinum thaianum (Amaryllidaceae) เป็นพืชน้ำที่ขึ้นได้เฉพาะน้ำไหลและใสสะอาด มีหัวอยู่ในดินใต้น้ำ ดอกสีขาว ชูพ้นน้ำขึ้นมาเล็กน้อย พบที่คลองนาคา และคุระบุรี จ.ระนอง เนื่องจากมีการลักลอบตัดไม้เป็นการทำลายต้นน้ำลำธาร สภาพที่น้ำที่เคยใสซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่เดิมเปลี่ยนเป็นตะกอนโคลนตม เป็นการทำลายสภาพนิเวศน์เดิม ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าจะสูญพันธุ์ไปในเวลาอันรวดเร็ว

Vulnerable หมายถึง พืชที่จะเข้าสู่สภาวะ endangered ในอนาคตอันใกล้ ถ้าอิทธิพลต่างๆ ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้พืชสูญพันธุ์ยังคงดำเนินอยู่ พืชนี้จะสูญพันธุ์ไปจากโลกหรือสูญพันธุ์ไปจากแหล่งการกระจายพันธุ์ รวมถึงพืชที่จำนวนประชากรลดลงเนื่องจากเหตุต่างๆ เช่น การนำมาใช้ประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล การทำลายแหล่งที่อยู่ของมันอย่างรุนแรงหรือจากอิทธิพลทางธรรมชาติอื่นๆ โดยพืชพวกนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการเพื่อการอนุรักษ์อย่างจริงจัง ได้แก่ กล้วยไม้หลายชนิด (Orchidaceae) ที่เป็นพันธุ์พื้นเมืองของไทย เช่น รองเท้านารีดอกขาว Paphiopedilum niveum, รองเท้านารีปีกแมลงปอ P.sukhakuluil, เอื้องฟ้ามุ่ย Vanda coerulea, เอื้องสามปอยดง V. denisoniana, เอื้องแซะหลวง Dendrobium scabrilingue, เอื้องไม้ตึง D. tortile เป็นต้น กล้วยไม้เหล่านี้และยังมีอีกหลายชนิดที่พร้อมจะเข้าสู่ภาวะ endangered species ได้ทุกเวลา เนื่องจากได้มีการเก็บกล้วยไม้เพื่อการค้ากันอย่างมากมาย นอกจากนี้ยังมีการลักลอบส่งเป็นสินค้าออก เพราะกล้วยไม้ไทยนี้ได้ชื่อในเรื่องของความสวยงาม อีกทั้งกล้วยไม้ส่วนใหญ่จะเป็นพืชอาศัยบนไม้ใหญ่ เมื่อมีการตัดฟันไม้เพื่อใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะถูกต้องตามกฏหมายหรือเป็นการลักลอบก็ตามย่อมเป็นการทำลายแหล่งที่อยู่ของพืช ซึ่งถ้าไม่มีการวางแผนอนุรักษ์แล้วเชื่อว่ากล้วยไม้เหล่านี้จะเข้าสู่สภาวะการเป็น endangered species ได้ในอนาคตอันใกล้

Rare หมายถึง พืชหายาก เป็นพืชที่มีจำนวนประชากรขนาดเล็ก ซึ่งยังไม่ได้อยู่ในขั้น endangered หรือ vulnerable ในขณะนี้ แต่มีความเสี่ยงที่จะเป็น endangered หรือ vulnerable ได้ พืชพวกนี้มักจะขึ้นอยู่ในท้องที่ที่มีลักษณะจำกัดทางสภาพภูมิศาสตร์ เช่น เป็นพืชท้องถิ่น (endernic) อยู่บนเกาะเล็กๆ หรือยอดเขาใดยอดเขาหนึ่ง พืชหายากจะมีการกระจายพันธุ์ไม่หนาแน่นในแนวการกระจายพันธุ์ พืชหายากไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น endangered เสมอไป เป็นเพียงพืชที่เราทราบจำนวนที่มันมีอยู่ว่ามันมีอยู่จำนวนน้อยเมื่อเทียบกับพืชอื่น อาจจำกัดอยู่ในพื้นที่แคบๆ ในขณะเดียวกันมันก็สามารถดำรงชีวิตสืบพันธุ์อยู่ได้ในบริเวณนั้น สามารถแก่งแย่งกับพืชอื่น ทนต่อสภาวะแวดล้อมทั้งทางภูมิอากาศและภูมิศาสตร์ได้เป็นอย่างดี พืชที่เราเพิ่งสำรวจพบว่าหายากในปัจจุบัน อาจจะมีแนวโน้มที่จะมีแนวการแพร่กระจายไปกว้างขึ้น ในทางกลับกันพืชที่มีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางอาจจะเป็นพืชหายากต่อไปในเวลาข้างหน้า หรือพืชชนิดหนึ่งอาจเป็นพืชหายากในท้องถิ่นหนึ่ง แต่อีกท้องถิ่นหนึ่งกลับมีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางก็เป็นได้ เช่น พืชที่ขึ้นอยู่ในสภาพที่เป็นโขดหิน หรือพืชที่ขึ้นในที่มีความชื้นมากๆ ในป่าดิบเขา เป็นต้น

http://www.seub.or.th/datacenter/forest/forest-id007.asp
22 ก.พ. 49 / 20:25
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159266 58.10.236.211

#6# - 159283 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] กระโถนพระฤาษี หรือ บัวผุด ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นพันธุ์ไม้ชนิดใหม่ของโลกและเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี
บัวผุด เป็นพืชในสกุล Rafflesia ซึ่งเป็นพืชเบียนหรือกาฝากชนิดหนึ่ง นับเป็นดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ทั่วโลกพบทั้งหมด 14 ชนิดที่พบในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี
บัวผุดที่พบในเมืองไทย เป็นพันธุ์ (Rafflesia kerril) พบกระจายพันธุ์ตามแนวเทือกเขาตะนาวศรี ตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา เรื่อยมาจนถึงป่าเขาสก อาศัยอยู่ในเถาย่านไก่ต้ม พอถึงเวลาเหมาะสมจะมีดอกโผล่ออกมาจากย่านไก่ต้ม ดอกบัวผุดขณะยังตูมคล้ายดอกกะหล่ำปลีสีน้ำตาลเข้ม เมื่อบานเต็มที่จะมีรูปร่างลักษณะคล้ายกระถางขนาดใหญ่สีแดง มีกลีบหนา 5 กลีบ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 70 - 80 ซม. ใช้เวลาประมาณ 9 เดือนดอกจึงบานเต็มที่ ซึ่งมักอยู่ในราวเดือนพฤศจิกายน - มกราคม

http://www.shincamp.com/index.php?option=com_content&task=view&id=50&Itemid=2

บัวผุด ที่พบในประเทศไทยได้รับการตั้งชื่อเป็นพันธุ์ของโลกเมื่อ พ.ศ.2527
โดย Dr.M.Meijer จากมหาวิทยาลัย Kentucky สหรัฐอเมริกาตั้งชื่อพฤกษศาสตร์สากล
เพื่อเป็นเกียรติแก่ Dr.A.F.G.Kerr นายแพทย์ชาสไอริช ผู้สำรวจพันธุ์ไม้ชนิดนี้เป็นครั้งแรก
เมื่อปี พ.ศ. 2472 ถึงแม้ว่าดอกบัวผุดจะมีกลิ่นหม็นเอียนก็ตาม แต่มันเป็น
พืชสมุนไพรที่หายากมากและมีคุณค่าสูง คือ นอกจากจะนิยมนำมาใช้ปรุงเป็นยา
บำรุงสตรีหลังคลอด ให้มีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงมีผิวพรรณเปล่งปลั่งเป็นสาวดังเดิมแล้ว
ยังเป็นยาบำรุงกำลังสำหรับบุรุษเพศอีกด้วย ในปัจจุบันดอกบัวผุดนับว่าจะหาดูได้ยากยิ่ง
ทั้งนี้เพราะเหตุว่า ป่าไม้ถูกทำลาย ลงไปอย่างมหาศาลทำให้สภาพนิเวศน์ของป่าเปลี่ยนไปมาก เราจะพบดอกบัวผุดบ้าง เฉพาะตามอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธ์ป่าเท่านั้น เช่นอุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองนาคา จังหวัดระยองเป็นต้น
http://www.thenatureline.com/raffiesia.html

22 ก.พ. 49 / 20:42
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159283 58.10.236.211

#7# - 159286 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] กุหลาบพันปี
ดอยอินทนนท์ เป็นยอดดอยสูงที่สุดในประเทศไทย อากาศโดยทั่วไปหนาวเย็นตลอดทั้งปี มีความชื้นสูง สภาพป่าเป็นลักษณะป่าเมืองหนาว มีพันธุ์ไม้แปลกที่หาดูที่อื่นๆ ได้ยาก เช่น กุหลาบพันปี

กุหลาบพันปี (Rhododendron arboreum subsp. Subvayi) หรือคำแดงนับเป็นพืชหายากที่มีดอกงามมากที่สุด ชนิดหนึ่งของประเทศไทยและมีการกระจายพันธุ์ค่อนข้างจำกัดอยู่เฉพาะในเขตอากาศหนาวเย็นบนพื้นที่ ชุ่มชื้น สันเขาหรือหน้าผาระดับความสูงประมาณ 1,600 - 2,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลในประเทศไทยพบได้ในป่าดิบเขาทางภาคเหนือ เช่น อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ และอุทยานแห่งชาติขุนแจ จังหวัดเชียงราย เป็นต้น ส่วนในต่างประเทศพบ ได้ที่อินเดีย เนปาล ภูฎาน พม่า และจีนในมณฑลยูนานและกุ้ยโจว
http://www.doiinthanon.com/unseen/

22 ก.พ. 49 / 20:49
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159286 58.10.236.211

#8# - 159288 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] How wondeful!!
22 ก.พ. 49 / 20:57
0 0
Puddinge [icon smile : 92 bytes] : n/a : n/a : n/a
followup id 159288 61.91.160.19

#9# - 159290 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] รองเท้านารีปีกแมลงปอ เป็นไม้ประจำถิ่นของภูหลวง
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรและทรงศึกษาพันธุ์ไม้ดอกไม้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง จังหวัดเลย เมื่อปีพุทธศักราช 2525 ได้พระราชทานนามพื้นที่ราบบนภูหลวง ีลานหินกว้าง สามารถมองทัศนียภาพได้ชัดเจนว่า "ลานสุริยัน" มีทุ่งดอกไม้แทรกสลับกับป่าไม้อยู่ทั่วไป ทุ่งดอกไม้บางแห่งมีความยาวถึง 2 กิโลเมตร มีกล้วยไม้ ตะไคร่น้ำ ฟองหิน และต้นไม้แคระจำพวกเหง้าน้ำทิพย์ที่เกาะอยู่อย่างสวยงาม พันธุ์ไม้ที่พบมีทั้งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ พืชสมุนไพร และไม้ดอก โดยเฉพาะกล้วยไม้ป่า อาทิ รองเท้านารีปีกแมลงปอ ที่พบแห่งเดียวในประเทศไทย กล้วยไม้ประเภทเอื้องต่างๆ และกุหลาบ เป็นต้น ด้วยคุณลักษณะพิเศษของลานสุริยันที่เต็มไปด้วยกล้วยไม้ป่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงมีพระราชดำริให้อนุรักษ์พรรณไม้ล้ำค่าเหล่านี้ไว้ ด้วยทรงตระหนักว่า จากความสวยงามของกล้วยไม้ป่านี้เอง ได้กลายเป็นการเลี้ยงเพื่อการค้า ทำให้ผลกระทบต่อพันธุ์กล้วยไม้บางพันธุ์ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ได้ ต้องถูกลักลอบออกจากป่า หรือจ้างวานให้ชาวบ้านเก็บออกจากป่าเป็นจำนวนมาก โครงการคืนชีวิตกล้วยไม้ไทยสู่ไพรพฤกษ์ เพื่อสนองพระราชดำริจึงเกิดขึ้น เมื่อปีพุทธศักราช 2538 เพื่อนำกล้วยไม้ไทยที่กำลังจะสูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย รวมพับพืชพรรณที่หายากจากป่าเมืองไทยได้คืนกลับสู่ธรรมชาติ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอีกมากมายหลายชนิดหลายแห่งที่เมืองไทยของเรา
http://www.rspg.thaigov.net/queen.htm

22 ก.พ. 49 / 20:59
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159290 58.10.236.211

#10# - 159297 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] รองเท้านารีอินทนนท์

กล้วยไม้ป่าในเมืองไทย
กล้วยไม้แบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ ด้วยกัน กลุ่มแรกเป็นกล้วยไม้อากาศ (Epiphytic orchid) ที่เกาะอยู่ตามลำต้นหรือกิ่งก้าน ของไม้ใหญ่ รวมทั้งตามโขดหิน กลุ่มนี้มีประมาณ 65% ของกล้วยไม้ในเมืองไทยทั้งหมด เช่น มาลัยแดง เอื้องคำ ช้างกระ สามปอยขุนตาล เอื้องพญาไร้ใบ เอื้องมอนไข่ กล้วยไม้อากาศไม่ใช่กาฝากที่ดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นไม้อื่น เพียงแต่ใช้พื้นที่ในการเกาะอาศัยเท่านั้นรากจะดูดกินอาหารจากธาตุอาหาร ที่ปะปนมากับน้ำฝนหรือน้ำค้าง

อีกกลุ่มหนึ่งเป็นกล้วยไม้ดิน (Terrestrial orchid) ที่ขึ้นอยู่ตามพื้นดินทั่วไป มีประมาณ 35% เช่น ยี่โถปีนัง รองเท้านารีคางกบ เอื้องม้าวิ่ง ทั่วโลกมีกล้วยไม้ราว ๆ 25,000 ชนิด ในเมืองไทยมีมากถึง 1,150 ชนิด
http://www.deqp.go.th/info/wrapper_openContent.jsp?contentID=60&templateID=1&rowID=470&languageID=th

รองเท้านารีอินทนนท์ เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยลำต้นสั้นและแตกกอใบรูปเข็มขัดไม่มีลาย กว้าง 3.5-4 เซนติเมตร ยาว 20-25 เซนติเมตร โคนใบมีประสีม่วงแกมแดง ดอกออกเดี่ยวตามซอกใบก้านดอกยาว 20-30 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงกลีบบนแผ่โค้ง ตอนกลางมีแต้มเป็นปื้นสีน้ำตาลขอบกลีบสีขาวกลีบดอกรูปช้อนบิดและแผ่โค้งแถบบนสีน้ำตาลอมแดง แถบล่างสีเหลือง กลีบกระเป๋าสีเหลืองอ่อนแกมน้ำตาล ดอกบานเต็มที่กว้าง 10-12 เซนติเมตร พบตามป่าดิบเขา ที่ระดับความสูง 1,200-1,500 เมตร ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตก ออกดอกช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์
http://www.dailynews.co.th/each.asp?newsid=41035

กล้วยไม้สกุลรองเท้านารี ทุกพันธุ์
http://www.doa.go.th/data-agri/03_REGULATION/Seed/Cites/html/plant_thai_app.htm

22 ก.พ. 49 / 21:14
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159297 58.10.236.211

#11# - 159298 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ดีใจค่ะที่ Puddinge มาชม
22 ก.พ. 49 / 21:15
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159298 58.10.236.211

#12# - 159319 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] มะพลับเจ้าคุณ
ชื่ออื่น หำฟาน (ลำปาง)

มะพลับเจ้าคุณเป็นไม้ต้น สูงถึง 8 ม. กิ่งอ่อน ใบอ่อนและช่อดอก มีขนสีออกแดงปกคลุมทั่วไป ใบ เดี่ยว เรียงสลับ แผ่นใบรูปขอบขนาน หรือรูปใบหอก กว้าง 2–6 ซม. ยาว 6–15 ซม. ปลายใบเรียวแหลม หรือยาวเป็นหาง โคนใบสอบแคบ หรือมน เนื้อใบหนา สีเขียวออกเหลืองเมื่อแห้ง มีขนสั้นนุ่มทั้งสองด้าน และจะค่อยๆ หลุดร่วงไปยกเว้นที่เส้นกลางใบ เส้นแขนงใบ 6–8 คู่ ก้านใบยาว 3–10 ซม. ดอก แยกเพศอยู่ต่างต้น ออกเดี่ยวๆ หรือเป็นช่อสั้นๆ ตามง่ามใบ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกมีอย่างละ 4 กลีบ ผล กลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 2–2.5 ซม. ผิวเกลี้ยง เมื่อแห้งสีเหลือง มีกลีบเลี้ยงปิดขั้วผล 4 กลีบ ก้านผลยาว 0.3–0.5 ซม.

มะพลับเจ้าคุณเป็นไม้ถิ่นเดียวของประเทศไทย พบในป่าดิบแล้งทางภาคเหนือ ที่ความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 200–1,000 ม. ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์–เมษายน ผลแก่เดือนมีนาคม–พฤษภาคม

http://www.dnp.go.th/Pattani_botany/%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89/ป่าบก/มะพลับเจ้าคุณ/มะพลับเจ้าคุณ.htm

สารบัญหนังสือ "ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย" ศ.ดร.เต็ม สมิตินันทน์
http://www.forest.go.th/Maethahp/famindex1.htm

22 ก.พ. 49 / 22:20
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159319 58.10.236.211

#13# - 159323 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] เข้ามาอ่านค่ะ อิอิ

พรรณไม้บางชนิดนางฟ้าก็เพิ่งเคยเห็น,รู้จักนะคะนี่ อิอิ

ขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะ

ปล.ถ้าดิชั้นทำกระทุ้เกี่ยวกับสัตว์จะมีคนเข้ามาอ่านมั้งมั้ยนิ?
22 ก.พ. 49 / 22:34
0 0
นางฟ้าปากมีดโกนจุติ [icon smile : 92 bytes] : n/a : n/a : n/a
followup id 159323 58.8.95.120

#14# - 159348 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] อ่านสิคะ
22 ก.พ. 49 / 23:09
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159348 58.10.236.211

#15# - 159366 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] อรพิม

ชื่ออื่น : คิ้วนาง, อรพิม (ภาคกลาง)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้เถาขนาดใหญ่ มีมือเกาะ ปกคลุมด้วยสั้นนุ่มสีน้ำตาลแดงที่กิ่งก้าน หูใบขนาดเล็ก ร่วงง่าย ใบเดี่ยว เรียงสลับ กว้าง 2-4.5 ซม. ยาว 2.7-4.5 ซม. ก้านยาว 0.6-1.3 ซม. แผ่นใบบางคล้ายกระดาษ รูปร่างค่อนข้างกลมโคนใบรูปหัวใจ ปลายหยักเป็น 2 แฉกเข้ามาถึงที่โคนใบ เกิดช่องว่างเป็นระยะห่างระหว่างสองแฉก 0.8-1.6 ซม. ปลายของแต่ละแฉกมน ขอบใบเรียบ เส้นใบมี 4 คู่ ผิวใบด้านบนเกลี้ยง ปกคลุมด้วยขนสั้นประปรายที่ผิวใบด้านล่าง ดอกช่อแบบช่อกระจะ ดอกย่อยมีก้านเรียงสลับบนแกนกลางลดหลั่นตามลำดับจากบนลงล่าง ช่อดอกยาว 13-17 ซม. ก้านช่อยาว 1-2.5 ซม. ดอกย่อยประกอบด้วย วงกลีบเลี้ยงจำนวน 5 กลีบ แยกกัน ปลายของแต่ละแฉกแหลม ปกคลุมด้วยขนสั้นนุ่มสีน้ำตาลแดง กลีบดอกจำนวน 5 กลีบ แยกกัน แบ่งเป็นกลีบกลาง กว้าง 0.4-0.6 ซม. ยาว 0.5-0.8 ซม. สีเหลืองครีมรูปไข่กลับ กลีบคู่ข้างและกลีบคู่ล่าง ขนาดเท่ากัน กว้าง 2.3-3.5 ซม. ยาวประมาณ 7 ซม. เกสรเพศเมียจำนวน 1 อัน อยู่เหนือวงกลีบ ผลแบบฝักถั่ว แบนเกลี้ยง มี 2-4 เมล็ด เมื่อแก่เต็มที่ฝักแตก กว้าง 3-5.7 ซม. ยาว 12-25 ซม. ก้านผลยาว 6-9.5 ซม.
เป็นพืชเฉพาะถิ่นของไทย ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกเดือน กรกฎาคม-พฤศจิกายน ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดและตอนกิ่ง
ประโยชน์ : ปลูกเป็นไม้ประดับ เปลือกไม้ใช้เคี้ยวกับหมาก และเส้นใยจากเปลือกไม้ใช้ทำเชือก
http://www.dongdib.com/kp_bot_garden/kpb_06-3.htm

22 ก.พ. 49 / 23:55
0 0
tathisri [icon smile : 92 bytes] : [ protect email from spamware ]
followup id 159366 58.10.236.211

#16# - 159392 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ชอบจังค่ะ

โดยเฉพาะ ดอกชมพูภูพิงค์

อ่านอย่างดัจริตหน่อยก้อ Pinky Pink 55+
23 ก.พ. 49 / 06:04
0 0
฿eekiiz` นู๋แบงค์ [icon smile : 92 bytes] : n/a : n/a : n/a
followup id 159392 58.8.36.227

#17# - 160386 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] สวัสดีครับอาจารย์และขอบคุณครับอาจารย์


ปล. ตอนนี้ก็จบแล้ว แต่ไม่ลืมอาจารย์นะครับ เพราะ
...เอลนินโญและลานินญา...ที่อาจารย์เคยสอนผมไว้!!!
27 ก.พ. 49 / 22:12
0 0
ข น ม ห ม า [icon smile : 92 bytes] : n/a : n/a : n/a
followup id 160386 58.10.27.230

#18# - 160777 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] Unbelievably, each of these is found in Thailand only!!
01 มี.ค. 49 / 22:26
0 0
Puddinge [icon smile : 92 bytes] : n/a : n/a : n/a
followup id 160777 58.8.55.57