|
|
#1# - 186867 |
|
|
|
|
The King and I
โชคไม่ดี ผมไม่มีโอกาสรายงานจากกรุงเทพก่อนที่จะเดินทางออกจากที่นั่น ว่าเกิดอะไรขึ้นในการเข้าเฝ้าของผมเพื่อถวายบังคมลา เนื่องจากการเข้าเฝ้านั้นมีขึ้นในบ่ายวันก่อนหน้าที่ผมจะออกเดินทาง โดยถูกเลื่อนมาจากกำหนดเดิมในต้นสัปดาห์นั้น เนื่องจากผมถูกไข้หวัดใหญ่เล่นงานอย่างหนัก. การเข้าเฝ้าของผมมีขึ้นที่พระราชวังฤดูร้อนของในหลวงที่หัวหิน ในบ่ายวันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม. ผมกับภรรยาได้พยายามเป็นพิเศษที่จะเจียดเวลาว่างที่แทบไม่มี ให้กับการเข้าเฝ้า เนื่องจากพระองค์เจ้าธานี ประธานองคมนตรีได้บอกกับผมว่า ในหลวงทรงปรารถนาที่จะพบผมเป็นพิเศษ เราบินไปหัวหินบนเครื่องบินของผู้ช่วยทูตทหารอากาศ โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ซึ่งทำให้เราสามารถลดทอนการเสียเวลาซึ่งมีไม่มากอยู่แล้ว ให้น้อยที่สุด
นี่เป็นครั้งแรกนับแต่ผมได้รู้จักกับท่าน ที่ในหลวงทรงมีพระราชดำรัสถึงสถานการณ์ภายในประเทศไทยกับผม. ดูเหมือนท่านจะทรงเห็นว่าเสถียรภาพของรัฐบาลถูกสั่นคลอนอันเนื่องมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจากการเลือกตั้ง แต่ท่านก็ไม่ได้ทรงแสดงความเห็นว่าวิกฤติการณ์ครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร. ท่านทรงกล่าวว่า วิกฤติครั้งนี้ อาจจะสิ้นสุดภายใน 3 เดือน หรือไม่ก็ 3 ปี. ท่านเห็นว่ายังไม่อาจพูดได้ในขณะนี้ว่า วิกฤติจะยืดเยื้อนานเพียงไร. ท่านทรงชี้ว่า ภายใต้เงื่อนไขที่แน่นอนและภายใต้การนำของบุคคลบางคน [certain personalities] กองทัพสามารถเป็นประโยชน์ [be of service] ต่อพระมหากษัตริย์และรัฐได้ ด้วยการกลายเป็นกองทัพที่ไม่ยุ่งการเมือง [becoming non-political] ท่านไม่ได้ระบุบุคคล [personalities] แต่ผมได้ความรู้สึก [impression] ว่า ทั้งในหลวงและพระองค์เจ้าธานีไม่ได้ทรงไว้ใจสฤษดิ์จริงๆ
ในหลวงทรงแสดงออกว่าทรงขมขื่นอย่างยิ่ง [very bitter โกรธเคือง - สมศักดิ์] ต่อการปฏิบัติของรัฐบาลต่อพระองค์ในโอกาสการฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ซึ่งเพิ่งจัดขึ้นในกรุงเทพ และสถานทูตจะส่งรายงานเรื่องการฉลองนี้มาต่างหาก พระองค์ไม่ได้รับการปรึกษาจากรัฐบาลเกี่ยวกับรายละเอียดของงานและท่านทรงไม่พอพระทัยอย่างเห็นได้ชัดในประเด็นที่ว่ารายละเอียดของงานถูกกำหนดขึ้นในลักษณะที่ต้องการทำให้รัฐบาลมีความสำคัญมากเท่าๆกับพระองค์ - ถ้าไม่ใช่มากกว่า - ซึ่งความจริงงานฉลองควรมีพระองค์เองเป็นจุดศูนย์กลาง ในหลวงไม่ได้ทรงพยายามปิดบังข้อเท็จจริงที่ว่า แม้จะทรงเป็นหวัด (ไม่ใช่ ไข้หวัดใหญ่ [influenza] ที่ถูกใช้เป็นข้ออ้างอย่างเป็นทางการ) พระองค์ทรงสามารถเข้าร่วมงานฉลองบางรายการได้ แต่ทรงจงใจไม่เข้าร่วมเอง ในหลวงทรงถูกวิจารณ์จากหนังสือพิมพ์บางฉบับ (โดยมากของรัฐบาล) ในการที่ไม่ทรงเข้าร่วมงานฉลอง และผมได้ความรู้สึก [impression] ว่า คณะองคมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์เจ้าธานี เห็นว่าในหลวงทรงเล่นผิดไพ่ [played a wrong card ใช้ยุทธวิธีผิด - สมศักดิ์] ที่ไม่ทรงอย่างน้อยก็ปรากฏพระองค์ในงาน ผมคิดว่ารายงานเกี่ยวกับการฉลองครั้งนี้ของสถานทูตเราคงจะกล่าวถึงประเด็นนี้อย่างแน่นอน ในหลวงบอกผมว่า เมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเกือบจะ "ล้อมกรอบ" ["framed" ใส่ความผิดๆ - สมศักดิ์] พระองค์ ในหลวงไม่ได้ทรงอธิบายว่าในแง่ใด แต่มหาดเล็กสนองพระโอษฐ์ดูเหมือนจะคิดว่าพระองค์ทรงหมายถึงเรื่องเรื่องไม่ดี [contretemps] เกี่ยวกับงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ
ในระหว่างการสนทนาของเรา ประเด็นเรื่องความเป็นไปได้ที่ปรีดีจะเดินทางกลับประเทศไทยได้ถูกหยิบยกขึ้นมา ในหลวงไม่ทรงคิดว่ามีความเป็นไปได้มากนักเมื่อคำนึงว่าปรีดีคงไม่ต้องการเผชิญกับความเป็นไปได้ที่จะถูกจับและถูกขึ้นศาล (ในข้อหาเกี่ยวข้องกับการสวรรคตของพระเชษฐา ในหลวงอานันท์) เป็นเรื่องน่าสนใจที่ในบรรดาการพบปะพูดคุยเพื่ออำลาบุคคลต่างๆของผมทั้งหมด ซึ่งรวมถึงกับนายกรัฐมนตรี นายร้อยเอกรักษ์ และพระองค์เจ้าวรรณ มีเพียงพระองค์เจ้าวรรณเท่านั้นที่เห็นชอบกับการกลับมาของปรีดี "ไม่ใช่อย่างลับๆหรือไม่ใช่ด้วยการเชิญของรัฐบาล แต่ด้วยความปรารถนาของปรีดีเอง และถ้าเขาพร้อมจะเผชิญกับผลที่ตามมาใดๆ" พระองค์วรรณทรงมีความเห็นดังกล่าวบนพื้นฐานที่ว่าปัญหานี้ต้องได้รับการเผชิญไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่ง ดังนั้นยิ่งเร็วก็ยิ่งดี ด้วยวิถีทางประชาธิปไตย แม้ว่าปัจจุบันเป็นที่รู้กันว่าปรีดีเป็นคอมมิวนิสต์ ทั้งนายกรัฐมนตรีและรักษ์ไม่เห็นด้วยอย่างหนักแน่นกับการกลับของปรีดี และอันที่จริง, ดังที่คุณคงเห็นจากโทรเลขของสถานทูตเมื่อเร็วๆนี้แล้ว, ถึงกับขอร้องให้รัฐบาลอังกฤษพยายามอย่างเต็มที่ที่จะป้องกันไม่ให้กลุ่มวัฒนธรรมและกีฬาของไทยเดินทางข้ามจากเกาะฮ่องกงเข้าไปในจีนคอมมิวนิสต์หรือเดินทางกลับจากจีนมาฮ่องกง บนพื้นฐานที่ว่า พวกนั้นไม่ใช่อะไรนอกจาก "ตัวแทนของปรีดี" ["Pridi's agents"] ทางสถานทูตจะรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสนทนาเหล่านั้นของผม
ในตอนท้ายของการเข้าเฝ้า ในหลวงทรงพระราชทานพระบรมฉายาของพระองค์กับสมเด็จพระราชินีซึ่งทรงลงพระปรมาภิไธยให้ผม พระองค์ยังทรงพระราชทาน, ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมแปลกใจมาก, เครื่องหมายพระปรมาภิไธยย่อ [personal cipher] ซึ่งทรงกล่าวทันที, ทรงมองผมอย่างรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่, ว่า "นี่ไม่ใช่เครื่องราชอิสริยาภรณ์" เมื่อผมถามเจ้ากรมพิธีการก็ได้รับคำตอบว่า "นี่ไม่ใช่เครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือเหรียญตรา แต่เป็นของที่ระลึกส่วนพระองค์เพื่อแสดงว่าทรงโปรดปราน" [personal token of His Majesty's esteem] อเล็ก อาดัมส์ [Alec Adams] คงสามารถให้คำอธิบายมากกว่านี้ว่าเรื่องนี้จะหมายความว่าอย่างไร และถ้าผมกลับไปแล้ว ผมสามารถจะพูดคุยกับกรมพิธีการได้ ถ้าจำเป็น ว่าควรทำอย่างไรกับเครื่องหมายนี้ดี [ปกติการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นเรื่องทางการที่รัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายต้องรับรู้และเห็นชอบก่อน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและบางครั้งก็ยุ่งยากพอสมควร ตัวเครื่องราชฯ ไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของผู้รับ - สมศักดิ์]
ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาระหว่างการเข้าเฝ้าของผม คือก่อนหน้านี้พระองค์เจ้าธานีได้ทรงบอกผมว่า ในหลวงทรงรู้สึกเสียพระทัย [hurt] หลังการสวรรคตของพระเชษฐา ต่อทัศนะที่ในหลวงทรงเข้าใจว่า "บุคคลในแวดวงชั้นสูง" ของลอนดอนโดยทั่วไปเชื่อกัน ที่ว่า พระองค์ท่านทรงมีส่วนรับผิดชอบไม่ทางใดก็ทางหนึ่งต่อการสวรรคต ผมได้ปฏิเสธว่าไม่เคยทราบทัศนะเช่นนั้นมาก่อน แต่พระองค์เจ้าธานีทรงกล่าวขอร้องต่อไปว่า รัฐบาลอังกฤษควรรีบส่งคำกราบบังคมทูลเชิญในหลวงและพระราชินีของไทย ให้ทรงเสด็จประพาสสหราชอาณาจักร ตามเวลาที่สะดวกของพระราชินีนาถอลิซาเบธและของในหลวงพระราชินีไทย พระองค์เจ้าธานีกล่าวว่า ฝ่ายอเมริกันได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จสหรัฐอเมริกาแล้ว แต่ในหลวงจะทรงพอพระทัยอย่างยิ่ง [would particularly appreciate] หากได้คำเชิญเสด็จจากพระราชินีนาถอลิซาเบธ เมื่อผมเอ่ยเรื่องนี้กับในหลวงในระหว่างเข้าเฝ้า ทรงกล่าวว่า พระองค์กับพระราชินีทรงปรารถนาที่จะเสด็จเยี่ยมพระราชินีนาถอลิซาเบธ แต่พวกท่านต้องทรงเสด็จเยี่ยมภาคต่างๆของไทยและประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงก่อน [ปัญหาการเสด็จเยือนต่างจังหวัด ต่างประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน ของในหลวง เป็นประเด็นทางการเมืองสำคัญในช่วงนี้ และช่วงสฤษดิ์ที่ตามมา ซึ่งผมจะอธิบายรายละเอียดในบทความ - สมศักดิ์]
ปัญหาการออกคำเชิญให้ในหลวงและพระราชินีของไทยเสด็จเยือนสหราชอาณาจักร เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่ผมเริ่มมารับหน้าที่เป็นทูต และคุณอาจจะต้องการดูจดหมายโต้ตอบในครั้งนั้นด้วย ความเป็นจริงก็คือ ในหลวงและพระราชินีของไทยคงไม่ทรงสามารถทำเช่นนั้นได้ภายใน 2 หรือ 3 ปีข้างหน้า แต่การได้รับคำเชิญแต่เนิ่นๆจะสร้างความพึงพอใจให้กับฝ่ายราชสำนักไทยอยู่นั่นเอง นี่จะเป็นเรื่องของทูตคนต่อจากผม แต่คุณอาจจะต้องการพูดคุยกับผมก็ได้เมื่อผมกลับไป
ผมส่งสำเนาจดหมายนี้ให้กับอเล็ก อาดัมส์ ที่กรุงเทพด้วย
ด้วยความจริงใจ,
เบิร์กเลย์ เกจ
(B.E.F. Gage) |
|
|
16 ก.ค. 49 / 13:43 |
|
0
0
แอล.ยู. มัดด์ (บัว ณะ โคลนตม) : |
|
|
|
|
|
followup id 186867
|
58.64.106.81
|
|
|
|