[suanboard monotone logo : 2777 bytes]
[header decor line : 64 bytes]
HOME RULE FAVOURITE MEMBER ZONE REACTIVATE FORGET PASSWORD    

SEARCH [icon freecompose : 217 bytes]
[icon register : 195 bytes] สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก : โพสต์รูป, รูปแบบตัวอักษร, ไอคอน, bookmark, ค้นหาข้อความ ฯลฯ [icon login : 178 bytes]

[icon-delete : 101 bytes]
" เรื่องน่ารู้ คู่ ตรุษจีน ??? "
“ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้ อั่งเปาตั่วตั่วไก๊” จู่ๆ เช้านี้ เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์มา หันไปทางเว็บนั่น นี่ โน่น ก็พบกับคำอวยพรภาษาจีนที่เราได้ยินคุ้นหูกันมาเป็นเวลานานปรากฎอยู่ทั่วไป PauLLiE เลยได้สดับว่า อ้อ!! เทศกาลปีใหม่ของชาวจีน หรือที่เราเรียกกันว่า “ตรุษจีน” กำลังมาเยือนอีกหนแล้วสินะ ซึ่งปีนี้มาเร็วหน่อย โดยจะตรงกับวันจันทร์ ที่ 23 มกราคม 2555 ที่จะถึงนี้ คราวนี้หลากคำถามในความทรงจำที่อยากรู้มานานของวันตรุษจีนก็พรั่งพรูออกมา เหมือนท่อประปาแตก จำเป็นเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหากูรูผู้มีความรู้มาตอบคำถามที่ค้างคาใจ ซึ่ง PauLLiE เชื่อว่า คนไทย แบบไทยแท้ (ที่ไม่ต้องกระแดะมีชื่อฝรั่งอย่าง PauLLiE ) น่าจะอยากรู้เหมือนกัน ถามเพื่อนหรือรุ่นพี่รุ่นน้องวัยใกล้เคียงกัน ก็ยากที่จะหาคนมาช่วยตอบได้ และสุดท้ายกูรูผู้โชคดีของเราก็หนีไม่พ้น กูรู GooGle ที่ถามอะไรตอบได้ มาช่วยไขความลับของเทศกาลนี้ มาดูกันค่ะว่า หลากคำถามของตรุษจีน ที่น่ารู้มีอะไรบ้าง

“ตรุษจีน” มีที่มาอย่างไร (ตำนานวันตรุษจีน) ?

อันว่าวันตรุษจีนนั้น ไม่ใช่เพียงแค่เป็นวันปีใหม่ของชาวจีนเท่านั้นนะคะ จริงๆแล้ว เค้ามีตำนานเล่าขานถึงที่มาของวันนี้กันค่ะ โดยเล่าสืบต่อกันมาว่า ในสมัยโบราณ มีสัตว์ป่าดุร้ายน่ากลัว ชื่อว่า “เหนียน” อาศัยอยู่ในป่าทึบ มันจะออกอาละวาดกัดกินและทำร้ายผู้คนอยู่เสมอ ทำให้พระเจ้าไม่พอใจและลงโทษด้วยการ อนุญาตให้ลงจากเขาได้เพียง 1 ครั้ง ในรอบ 365 วัน โดยจะอยู่ในช่วงปลายฤดูหนาว ต้นฤดูใบไม้ผลิ (วันที่ 30 เดือน 12) บรรดาผู้คนจึงต้องสะสมเสบียงในช่วงเวลาดังกล่าว และไม่ออกจากบ้าน พร้อมปิดประตูอย่างแน่นหนา เพื่อไม่ให้ “เหนียน”เข้ามาทำร้ายได้ และเมื่อถึงรุ่งเช้า วันแรม 1 ค่ำ เดือน 1 “เหนียน” กลับไป ผู้คนก็จะเปิดประตูออกมา แสดงความยินดี ที่ไม่ถูกทำร้าย

ต่อมา ผู้คนพบว่า “เหนียน” ที่น่ากลัว มีจุดอ่อน อยู่ 3 ประการคือ กลัวเสียงดัง ( เคยมาเจอเด็กเล่นหวดแส้ เสียงดัง แล้ววิ่งหนีไป) , กลัวสีแดง (เคยมาเจอชาวบ้านตากเสื้อผ้าสีแดงสด แล้วตกใจ วิ่งหนีไป) และ กลัวไฟ ( เคยมาเจอกองไฟกองใหญ่ แล้วตกใจวิ่งหนีไป ) จึงคิดหาวิธีกำหราบ “เหนียน” โดย เมื่อวันสุดท้ายปลายฤดูหนาว ต้นฤดูใบไม้ผลิ (วันที่ 30 เดือน 12) มาถึง ทุกๆบ้าน จะนำกระดาษสีแดงมาติดที่ประตูบ้าน แขวนโคมไฟสีแดง จุดไฟสว่างรอบบ้าน พร้อมจุดประทัดและตีฆ้องรัวกลองเสียงดัง อย่างต่อเนื่อง เมื่อ “เหนียน” มาเจอก็ตกใจ ไม่กล้าเข้ามาทำร้ายผู้คนอีก รุ่งเช้าผู้คนต่างพากันยินดี กล่าวคำอวยพรให้แก่กัน และรับประทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข ต่อมาจึงได้นับเอาวันแรกของปี และเป็นวันเฉลิมฉลองที่มีแต่ความสุข นี้ว่า “วันตรุษจีน” ค่ะ ( เรื่องเล่าตำนานของเค้าน่ารักดีนะคะ)

ข้อห้าม ในช่วงวันตรุษจีน



ช่วง วันตรุษจีนนี้ มีข้อห้ามหลายข้อที่ชาวจีนเชื่อว่า ต้อง งด ละเลิก ห้ามปฏิบัติโดยเด็ดขาด เพื่อให้ชีวิตนับแต่วันปีใหม่นี้ เจริญรุ่งเรือง มาดูกันค่ะว่า ความเชื่อเหล่านั้น มีอะไรบ้าง

1.ห้ามทำความสะอาดบ้าน เชื่อกันว่า การทำความสะอาดและทิ้งขยะในวันตรุษจีนนี้ จะเป็นการ กวาดเอา โชคลาภ เงินทอง สิ่งดีดี ออกไปจากบ้าน ทั้งนี้ บ้านส่วนใหญ่ จะทำความสะอาดชุดใหญ่ไปแล้วก่อนถึงวันตรุษจีน เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความสกปรกในบ้าน แต่หากบ้านใด มีขยะเยอะ ต้องทำความสะอาดจริงๆ ก็มีวิธีการ คือ ให้กวาดขยะไว้ที่มุมบ้านก่อน แล้วค่อยเก็บไปทิ้งในวันถัดไป

2.ห้ามสระผม หรือตัดผม การสระผม หรือ ตัดผมนั้น ในภาษาจีน ออกเสียงคล้ายกับคำว่า “มั่งคั่ง” ในวันตรุษจีนนี้ จึงไม่นิยมตัดผม หรือ สระผม เพราะเชื่อว่า จะตัดเอาความมั่งคั่ง ทิ้งไป

3.ห้ามพูดคำหยาบ และ ห้ามทะเลาะเบาะแว้งกัน ในวันตรุษจีนนี้ การพูดคำหยาบ การทะเลาะเบาะแว้ง รวมไปจนถึงการพูดเกี่ยวกับความตาย ถือว่าเป็นสิ่งไม่เหมาะสม ห้ามทำโดยเด็ดขาด เพราะถือว่าจะนำความโชคร้ายมาให้ตลอดปี ทั้งนี้ การพูดอะไรก็ตามเกี่ยวกับเลข 4 ก็ไม่สมควรเช่นเดียวกัน เพราะเลข 4 ออกเสียงคล้ายกับคำว่า “ซี้” ซึ่งหมายถึงความตาย ค่ะ

4.ห้ามกินโจ๊ก และ เนื้อสัตว์ เชื่อกันว่า ในอดีตอาหารของคนจนคือ โจ๊ก เพราะฉะนั้น ในวันตรุษจีน ชาวจีนจะไม่ทานโจ๊กโดยเด็ดขาด เพราะจะเป็นการขัดขวางโชคลาภ ทำให้ตนเองไม่ร่ำรวย ทำตัวเหมือนคนจน ทั้งนี้ สำหรับเนื้อสัตว์ที่ห้ามทานในวันตรุษจีนนั้น เชื่อ กันว่า เทพเจ้า ที่ลงมาในวันตรุษจีนนั้นเป็นมังสวิรัติ เพราะฉะนั้น เราๆจึงไม่ควรทานเนื้อสัตว์ด้วย

5.ห้ามซักผ้า สำหรับความเชื่อนี้มีที่มาจาก การที่ชาวจีนเชื่อว่า “เทพเจ้าแห่งน้ำ” เกิดในวันตรุษจีน หากมีการซักผ้า นำน้ำมาทำให้สกปรก จะเป็นการลบหลู่เทพเจ้า จึงห้ามซักผ้าในวันนี้เด็ดขาด

6.ห้ามใส่ชุดขาว – ดำ ในวันนี้ชาวจีนส่วนใหญ่จะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง ซึ่งเป็นสีที่เชื่อว่าจะนำความโชคดีมาให้ ส่วนสีขาว และ สีดำนั้น ห้ามใส่โดยเด็ดขาด เพราะ ถือว่า เป็นสีแห่งความตาย ใครใส่ ก็จะถือเป็นลางร้าย จะพบเจอแต่สิ่งไม่ดี เป็นอัปมงคล

7.ห้ามให้ผู้อื่นยืมเงิน การให้ยืมเงินในวันนี้ ขาวจีนเชื่อว่าจะทำให้ทั้งปี มีคนเข้ามายืมเงินตลอด การยืมนี้ หมายรวมถึงการยืม ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆด้วย และ หากใครมีหนี้สินอะไร ก็ต้องชำระคืนให้แล้วเสร็จก่อนวันตรุษจีน เพื่อที่จะได้ไม่มีหนี้สินตลอดปี

8.ห้ามทำของแตก การทำของแตกในวันตรุษจีนนั้น ชาวจีนเชื่อว่าจะนำพาความโชคร้ายมาให้ ครอบครัวจะแตกแยก หรือ มีคนในครอบครัวเสียชีวิต ในวันนี้ ชาวจีนจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่หากมีการทำของแตกจริง ก็มีวิธีการแก้เคล็ดคือ ให้พูดว่า “luo di ka hua” ซึ่งแปลว่า “ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกสู่พื้น”

9.ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ คำว่ารองเท้า ในภาษาจีน ออกเสียงว่า Hai ซึ่งมีสำเนียงคล้ายการถอนหายใจ ชาวจีนเชื่อว่าเป็นสัญญาณการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี จึงไม่นิยมการซื้อรองเท้าใหม่ในตลอดเดือนแรกของปีค่ะ

พิธีการไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ (เทพไฉ่ ซิ่งเอี๊ย) ในวันตรุษจีน... ยังมีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับตรุษจีนอีกมากมาย อ่านต่อคลิก http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/000076/lang/th/
22 ม.ค. 55 / 11:11
0 0
556y [icon smile : 92 bytes] (6992) : n/a : n/a : n/a
view 2056 : discuss 1 : rating - : bookmarked 0 : vote 1 171.7.168.225

#1# - 670982 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] เหรอ.....?
24 ม.ค. 55 / 23:19
0 0
ftfyg4545T556 [icon smile : 92 bytes] (2039) : n/a : n/a : n/a
followup id 670982 110.49.248.243


กระทู้นี้ต้องล็อกอินก่อนแสดงความคิดเห็นครับ

[icon login : 178 bytes]