ใครอ่าน Steve Jobs เขียนโดย Walter Isaacson จบแล้วบ้างครับ

	สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก : โพสต์รูป, รูปแบบตัวอักษร, ไอคอน, bookmark, ค้นหาข้อความ ฯลฯ

" ใครอ่าน Steve Jobs เขียนโดย Walter Isaacson จบแล้วบ้างครับ "

หลังจากได้มาเมื่อเทอมที่แล้ว และอ่านไปแค่ 10 บทเพราะทนพฤติกรรม Steve Jobs ไม่ไหว
ผมโพสสรุปสั้นๆแต่ละบทค้างไว้ที่กระทู้นี้
http://www.suanboard.net/view.php?p=view&kid=67917

วันนี้ผมอ่านจบแล้วครับ เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาดีมาก ยกเว้นเล่มภาษาไทยที่พิมพ์ผิดจนน่ารำคาน
แต่เล่มภาษาไทยดีตรงผู้แปลจะอธิบายเสริมหลายๆอย่าง เช่นคนนี้คือใคร คำเฉพาะคำนี้คืออะไร
เพราะเราไม่อยู่ที่นั่น คนดังก็ไม่รู้จัก ร้านอาหารเจ๋งๆก็ไม่รู้ อ่านไทยเลยเข้าถึงได้อีกนิด
แต่ถ้ามีโอกาสกลับไปอ่านใหม่ ผมจะอ่านเป็นภาษาอังกฤษ จะได้ฝึกภาษาและรู้สึกถึงการเขียนของผู้แต่งโดยตรง

03 ส.ค. 55 / 23:47

เบอร์10

(7098) : n/a : n/a : n/a

view 3048 : discuss 12 : rating - : bookmarked 0 : vote 0

115.67.224.234

#1# - 673543

"สนามความจริงที่ถูกบิดเบือน"

คุณสมบัติที่ผมคิดว่า Steve สร้างทุกอย่างจากความสามารถนี้
ผมเรียนรู้มาว่าผู้ประกอบการจะเห็นภาพธุรกิจตัวเองประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน ตั้งแต่ยังเป็นแค่ไอเดียในหัว
แล้วผู้ประกอบการยังต้องขายไอเดียและความเชื่อมั่นให้ทั้งพนักงานและลูกค้าเก่งมาก
แต่ในหนังสือเล่มนี้จะมีหลายเหตุการณ์ที่ Steve ใช้ทักษะมากกว่านี้
จนทุกคนเรียกว่า "สนามความจริงที่ถูกบิดเบือน"

ดันอ่านไทย เลยไม่รู้ฝรั่งเรียกอะไร - -"
03 ส.ค. 55 / 23:55
1 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 673543 115.67.224.234

#2# - 673544

การเชื่อมต่อความรู้ในชุมชน แหล่งอุตสาหกรรม พันธมิตรและคู่แข่ง

ในหลายๆตอนจะเห็นว่าคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง มีใส้ในทั้ง Hardware และ Software จากหลายบริษัทช่วยกันทำ
ในช่วงเวลาผ่านไป 30 ปี ทั้งบุคคลและบริ๋ัทต่างๆเป็นได้ทั้งเพื่อน คู่แข่ง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
การเจรจาตกลง การเรียนแบบ การปกป้องข้อมูล การใช้ประโยชน์ร่วมกัน การดึงตัวคน
ถ้าจะสร้างธุรกิจ การอ่านหนังสือเล่มนี้บอกได้เยอะเลยว่าจะต้องเจออะไรบ้าง
04 ส.ค. 55 / 00:05
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 673544 115.67.224.234

#3# - 673545

การสร้างธุรกิจ รื้อทิ้ง ทำพัง ควบรวม และขายให้ผู้อื่น

ถ้าเริ่มอ่านตั้งแต่สร้าง Apple แล้วโดนให้ออก
สร้าง NeXT ขึ้นมา จากนั้นก็ PIXAR
แล้วกลับไปกอบกู้ Apple อีกครั้ง

ตอนนึงที่เด็ดมากคือเมื่อ Steve กลับมา Apple แล้วพบว่ายุคของ personal computer ได้ผ่านไปแล้ว
ถ้าจะกอบกู้บริษัท Apple ต้องมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ต่างไปจากแต่ก่อน
แล้วตอนนั้น ใครเป็นคนคิด และคิดยังไงถึงได้เลือกอะไรขึ้นมาทำขาย
การโฟกัสเป็นสิ่งสำคัญมา ผมนึกไม่ถึงว่ามันจะสร้างการพัฒนาได้ขนาดนี้
มันยังกับ Apple บริษัทเดิม แต่กระโดดไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ Apple เลย

ทุกอย่างที่อ่านมีค่ามากจนผมไม่อยากสรุปสั้นๆ และผมก็ยังเข้าใจได้ไม่ดีพอ
แต่ผมรับรองว่าถ้าไปอ่านแล้วเน้นหาคำตอบในหัวข้อนี้ หนังสือเล่มนี้มีให้เต็มๆ
04 ส.ค. 55 / 00:25
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 673545 115.67.224.234

#4# - 673546

การควบรวมทุกสิ่งแบบ Apple และการให้ผู้อื่นใช้ร่วมกันแบบ Microsoft

แนวคิด Microsoft ทำได้ดีในเรื่องของ Personal Computer
ส่วน Apple ทำได้ดีใน iPod iPhone iPad
ผมชอบที่ Steve เอาแนวคิดแบบ JIT จากญี่ปุ่นมาใช้
และการควบรวมทุกอย่างส่งผลดีกับการทำสินค้าที่สร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้

ผมห่วงที่ Bill Gates บอกว่าการทำแบบนี้ได้ก็เฉพาะตอน Steve ยังอยู่เท่านั้น
แต่แอบใจชื้นที่ Steve พูดทิ้งไว้ว่าอย่างน้อยบริษัทรถก็เคยทำอย่างนั้น

นึกถึง Toyota Way ขึ้นมาทันที เห็นมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้หยิบอ่าน = =
04 ส.ค. 55 / 00:36
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 673546 115.67.224.234

#5# - 673547

ความสนุกผมอยู่ตรง iPod iTune iPhone iPad

Apple กระโดด้ข้ามาทำธุรกิจบันเทิงด้วย iPod
ตามด้วยการสร้าง iTune Store ที่เปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจบันเทิงครั้งยิ่งใหญ่
ผมตื่นเต้นตอน Steve ไปคุยกับ Dr.Dre กุนซือด้านเพลงของ Eminen ทั้งๆที่ Steve ไม่เข้าใจเพลง RAP เลย
มีทั้งการเจรจากับ U2 การทะเลาะด่ากับ Bono คำวิจารณ์ของสื่อทั้งวงการเพลงและคอมพิวเตอร์
การเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ น่าสนใจมาก

ยิ่งถ้าอ่านแล้วคิดตามว่าปี ค.ศ. เหล่านั้น ผมทำอะไรอยู่ ตอนออกสิ้นค้าใหม่ๆผมรู้มั้ยว่าโลกกำลังเปลี่ยน
คิดตามแล้วตื่นเต้นมาก (คงมีผมคนเดียวที่ตื่นเต้น 555)

ความสนุกของการอ่านเล่มนี้อีกอย่างคือเมืองต่างๆ
เมืองต่างๆที่กล่าวถึงในหนังสือเล่มนี้ ผมชอบมันมาก เวลาพูดถึงเมืองไหนก็นึกตาม
ผมผ่านไปหลายเมือง แต่ผ่าน Palo Alto ไม่กี่ครั้ง มันไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว
แต่ผมก็จำได้ดีว่าเมืองนี้สะอาด สงบ ดูเป็นระเบียบมาก
ยังมีภาพต้นไม้ใหญ่สีเขียวกับถนนที่สะอาดเว่อติดตาผมอยู่ทุกวันนี้

... จนพึ่งมาอ่านเจอและรู้ว่า ที่เมืองนี้มันดีเพราะมีนี่คนเก่งอยู่กันเพียบเลยนี่หว่า -0-
04 ส.ค. 55 / 00:56
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 673547 115.67.224.234

#6# - 673548

Connection สำคัญมาก

ในหนังสือกล่าวถึงประธานบริษัทดังๆ จนไปถึงประธานาธิบดี 2 คน และรองอีกคนด้วย
Steve เข้าถึงตัวบุคคลชั้นสูงของสังคมได้หมด ทั้งอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และบันเทิง รวมถึงด้านอื่นๆ
ที่น่าสนใจคือ Steve เรียนไม่จบ แสดงว่า connection ไม่ได้อยู่ในวงกลมของโรงเรียนหรือมหาลัย
แต่ Connection ของ Steve อยู่ในวงกลมของธุรกิจที่ Steve มีและเข้าไปเกี่ยวข้อง
04 ส.ค. 55 / 01:03
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 673548 115.67.224.234

#7# - 673549

ปรัชญาชีวิต

ความเรียบง่าย ความสมบูรณ์แบบ การตั้งใจทำงานเพื่อให้โลกน่าอยู่ขึ้น และความตาย
หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอดความคิด Steve ในเรื่องพวกนี้แทรกตามบทต่างๆ
เป็นตัวอย่างที่ดี อ่านแล้วเข้าใจอะไรมากขึ้นเยอะเลยครับ

ใครมีโอกาสลองไปอ่านดูนะครับ ผมโพสไม่ไหวหละ ง่วงมากๆ 555+
04 ส.ค. 55 / 01:07
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 673549 115.67.224.234

#8# - 673551

Business Cluster, Infrastructure, Supply Chain

ในหนังสือเล่มนี้อธิบายอย่างชัดเจน ว่าธุรกิจที่อยู่รวมกัน กระจุกตัวอยู่ด้วยกัน มี know how ที่ช่วยสนับสนุนกัน
มีบุคคลที่มีความรู้อยู่ในชุมชนเยอะ แต่ละคนมีคอนเนกชั่น วนเวียนหมุนเปลี่ยนไปบริษัทต่างๆ
คนที่ออกไปก็เอาความรู้ติดตัวไปที่ใหม่ ส่วนที่เก่าได้คนใหม่ ก็ไก้ทักษะใหม่เข้ามาเหมือนกัน
ดูเหมือนธุรกิจที่อยู่ภายในกลุ่ม ในชุมชนนี้ จะเกื้อหนุนให้ทุกธุรกิจพัฒนาขึ้นกว่าคู่แข่งจากนอกชุมชน

คนนอกอาจเห็นแค่ MacBook แต่คนภายในรู้ว่ามีหลายธุรกิจที่จำเป็นต้องมาช่วยกัน
เด็กอย่างผมอาจรู้แค่ประกอบคอมขาย เปิดร้านเนต หรือ ขายปลอก iPhone
แต่คนวงในสามารถสร้างบริษัทที่มีหน้าที่สนับสนุนธุรกิจแบบแปลกๆใน niche market โดยแทบไม่มีใครรู้จัก ไม่มีคู่แข่ง และทำกำไรได้งดงาม

เมืองไทยก็มีบางอุตสาหกรรมที่เป็น cluster แบบนี้ ถ้าใครมีครอบครัวทำอยู่แล้วมีไอเดียเจ๋งๆ
ผมเชื่อว่ายังมีโอกาสให้เด็กยุคใหม่เขย่า supply chain และเปลี่ยน business model ได้
04 ส.ค. 55 / 17:04
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 673551 115.67.192.34

#9# - 673552

หนังสือภาษาไทย 668 หน้า ที่รวมทุกอย่างไว้
ผมอ่านจบแล้วยังเสียดายอยู่เลยว่าจะมีหนังสือดีๆแบบนี้ให้อ่านอีกมั้ย
ที่หายากกว่าคงชีวิตคนที่มีเรื่องราวน่าสนใจขนาดนี้ครับ

ไม่ต้องกลัวว่ามันหนาไปนะครับ
ทุกวันนี้เรา ดูขยะ อ่านขยะ ฟังขยะกันเยอะกว่า 668 หน้าอยู่แล้ว

จริงๆนะ :]
04 ส.ค. 55 / 17:09
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 673552 115.67.192.34

#10# - 673553

ญี่ปุ่นและนิกายเซน

ฮีโร่ผู้ล่วงลับของผมสองคน Peter F. Drucker และ Steven P. Jobs มีอะไรคล้ายกัน
งานของสองคนนี้เกี่ยวกับ Efficiency & Effectiveness ตลอด
PD เป็น Industrial Engineer ส่วน SJ ก็นำ JIT มาใช้
สิ่งที่น่าสนใจมากขึ้นคือ 2 คนนี้ไปญี่ปุ่น ชอบหลักการทำงานที่นั่น
ทั้ง 2 คนนี้พูดถึงนิกายเซน ความเรียบง่ายในชีวิต
และมีบางช่วงของหนังสือที่กล่าวถึงญี่ปุ่นอย่างชัดเจน และแทบไม่แตะประเทศอื่นเลย

ผมเริ่มอยากรู้ว่าญี่ปุ่นมีอะไรดีๆบ้างหละครับ :]
04 ส.ค. 55 / 17:20
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 673553 115.67.192.34

#11# - 673554

ขอบคุณมากครับ อ่านกระทู้นี้แล้วทำให้ผมจะกลับไปอ่านให้จบแล้ว :)

ปล. ภาษาอังกฤษเรียก reality-distortion field ครับ
05 ส.ค. 55 / 08:27
0 0

Annie (4828) : n/a : n/a : n/a

followup id 673554 112.119.110.12

#12# - 673555

#11 อ่านแล้วมีความเห็นยังไง โพสมาคุยกันได้นะครับ

ขอบคุณสำหรับ reality-distortion field ครับ
อ่านไทยมากๆบางทีก็ไม่รู้คำจะไปคุยกับฝรั่งเหมือนกัน

:]
05 ส.ค. 55 / 12:36
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 673555 115.67.192.34

กระทู้นี้ต้องล็อกอินก่อนแสดงความคิดเห็นครับ