OUTLIERS: The story of success แนะนำหนังสือ + สรุป

	สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก : โพสต์รูป, รูปแบบตัวอักษร, ไอคอน, bookmark, ค้นหาข้อความ ฯลฯ

" OUTLIERS: The story of success แนะนำหนังสือ + สรุป "

ช่วงนี้กำลังอ่านเล่มนี้อยู่ครับ เขียนโดย Malcolm Gladwell
ดูเหมือนจะมีภาษาไทยออกมาแล้วด้วย

เนื้อหาเกี่ยวกับอะไรคือปัจจัยในความสำเร็จ ซึ่งยิ่งอ่านก็ยิ่งตื่นเต้นครับ
ผมรีบๆอ่านตอนว่าง ไม่ประติดประต่อ แต่จะโพสไว้ เผื่อใครสนใจ ลองไปหาอ่านดูนะครับ
พ่อ แม่ ควรอ่านมากๆ เพราะน่าจะเปลี่ยนวิธีเลี้ยงลูกได้พอสมควรเลย

26 พ.ย. 55 / 00:58

เบอร์10

(7098) : n/a : n/a : n/a

view 3011 : discuss 12 : rating - : bookmarked 0 : vote 0

115.67.99.53

#1# - 675039

บทที่1 The Matthew Effect

ใครจะนึกว่าวันที่และเดือนที่เกิดส่งผลกับชีวิตได้ขนาดนี้ - -"

ผู้เขียนพูดถึงทีมที่ได้แชมป์ฮอกกี้เยาวชนประเทศแคนาดาว่าส่วนมากมีเด็กที่เกิดเดือน มกรา กุมภา มีนา
ตอนแรกผมนึกว่าราศีส่งผล ที่ไหนได้เค้าตัดรุ่นวันที่ 1 มกรา ของทุกปี
กลายเป็นว่าเด็กที่เกิดใน 3 เดือนนี้ จะโตสุด ฝึกเล่นมานานสุด ในแต่ละรุ่น

และพอเด็กกลุ่มนี้ผ่านเข้าไปในเส้นทางนี้ ก็จะถูกเลือกให้ฝึกในที่ดีๆ มีโอกาสลงเล่นมากขึ้
สุดท้ายก็จะเก่งมากๆ และมีโอกาสเป็นนักกีฬาอาชีพมากขึ้น

ตรึง!! ข้อแรกผมก็ตกแล้ว อายุจัดว่าน้อยในรุ่น มิน่าพวกเกิดก่อนมันได้เกรด 3.8+
ถึงแม้จะเซ็งบ้าง แต่ผมคงใช้เป็นข้อแก้ตัวกับแม่ได้บ้าง

:]
26 พ.ย. 55 / 01:17
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 675039 115.67.132.60

#2# - 675040

จากบทที่1 เนี่ย ผมว่าเด็กที่เกิดในปีที่คนเกิดกันเยอะๆคงเครียดมาก
แย่งกันเข้าโรงเรียน เลือกสาย เข้ามหาลัย แย่งงานทำ แล้วก็ไต่ๆๆๆไปตายตอน 60 -"-
คิดง่ายๆแค่ถ้า ร.ร. ดังมากๆโรงเรียนนึงมี ม.1 แค่ 10 ห้อง แต่เด็กที่เกิดในพื้นที่นั้นมากขึ้นแค่ 5%
แต่ 5% นี่ส่งผลกับจำนวนเด็กเกิดในกรุงเทพปีนั้นซัก 5,000 คน (มั้งนะ)
5,000 คนที่เพิ่มขึ้นนี่ อาจมีซัก 20% ที่อยากเข้า ร.ร. ดังที่ว่านี้ = 1,000 คน
แปลว่ารุ่นที่สอบแข่งนั่น มีคู่แข่งเพิ่มมาอีก 1,000 คน !! ตายแน่ และนี่แค่ชีวิต ม.1 นะ ยังต้องไปถึงจบโทอีก

ขำๆกับตัวเลขคร่าวๆ แต่ก็ห่วงเด็กที่กำลังจะเกิดเพราะพ่อแม่แห่กันปั้มลูกช่วงปีมังกรไม่ได้
ไหนจะอั้นมาจากน้ำท่วมกรุงปี 54 อีก เอิ่ม ... ผมคิดไปเองป่าวว่าปีนี้ผู้หญิงท้องหลายคน
26 พ.ย. 55 / 01:28
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 675040 115.67.132.60

#3# - 675041

บทที่2 กฏ 10,000 ชั่วโมง

ความขยันช่วยได้
ผู้เขียนยกตัวอย่างจาก:
Mozart นักแต่งเพลง
Bill Joy ผู้ร่วมก่อตั้ง Sun Microsystems
The Beatles วงดนตรีจากอังกฤษ
Bill Gates ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft

แต่ละคนฝ่านการฝึกฝนถึง 10,000 ชั่วโมง ก่อนที่จะดัง/ประสบความสำเร็จ

สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ อะไรทำให้คนพวกนี้มี 10,000 ชั่วโมงนี้ได้
นอกจากใจรักแบบสุดๆแล้ว คือโอกาสซ้อนโอกาสซ้อนโอกาสที่ต่อๆเข้ามาตลอดเวลา
เรื่องนี้น่าสนใจเพราะถ้าไม่มีมันก็ไม่มี 10,000 ชม. แต่คงต้องไปเปิดอ่านเองครับ
26 พ.ย. 55 / 01:44
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 675041 115.67.132.60

#4# - 675042

ปีเกิดก็สำคัญ

ผู้เขียนเอารายชื่อคนรวยสุด 75 คนแรกในประวัติศาสตร์โลก
(ครีโอพัตตราติดอันดับที่ 21 ด้วยวุ้ย -0- )
แต่ที่น่าสนใจคือในรายชื่อนี้มีคนอเมริกัน 14 คน ที่เกิดในช่วงเวลาแค่ 9 ปี (ปี1831-1840)
พูดใหม่คือ ช่วงเวลา 9 ปีนี้ มีเศรษฐีโลกชาวอเมริกันถึง 14 คนที่เกิดขึ้นมา
แล้วช่วงนั้นมีอะไร มีแก๊งค์ไหนกลับชาติแห่มาเกิดป่าว - -"
26 พ.ย. 55 / 01:53
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 675042 115.67.132.60

#5# - 675043

เหตุผลคือช่วงปี 1860s-1870s เศรษฐกิจอเมริกาเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
มีการสร้างทางรถไฟ อุตสาหกรรมการผลิตดีขึ้น มี wall street เกิดขึ้น
แล้วถ้าใครเกิดช่วง 1840s ปลายๆนี่ยังเด็กไป เลยพลาดโอกาส
ส่วนคนที่เกิดช่วง 1820s ก็แก่ไป ยุคสงครามกลางเมืองมันทำให้คนยุค 1820s มี mind-set อีกอย่างนึง

ไอเรื่องนี้ ผมเองก็เลือกปีเกิดไม่ได้ อ่านผ่านขำๆเพื่อให้รู้อีกปัจจัยของคนที่จะรวยแล้วกัน
26 พ.ย. 55 / 02:03
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 675043 115.67.229.111

#6# - 675044

บางคนบอกว่าประวัติศาสตร์มักซ้ำรอย บางคนก็บอกว่าทุกอย่างมี pattern ของตัวมันเอง

และแล้วผู้เขียนก็ยกอีกเหตุการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ขึ้นมานั่นคือยุคคอมพิวเตอร์
เมื่อปี 1975 เป็นยุคของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ที่ใช้กันในบ้านเรือน สำนักงานเล็กๆได้
แล้วใครจะได้เค้กชิ้นนี้ไป ?

ผู้เขียนบอกว่าถ้าคุณแก่เกินไปในปี 1975 ตอนนั้นคุณก็จะได้งานทำที่ IBM แล้ว
ซึ่งคนที่ IBM เวลานั้นยากที่จะมองเห็นอนาคตแบบใหม่
ในเมื่อคุณกำลัง mainframes หลายพันล้านดอลล่า
ทำไมต้องมาปวดหัวกับคอมพิวเตอร์เล็กๆห่วยๆ (สมัยก่อนคอมกากมาก)
เพราะฉะนั้นถ้าใครจบมหาลัยในปี 1975 ซัก 2-3 ปีแล้ว คนนั้นมีแนวโน้มที่จะมองโลกแบบเก่า
แถมยังพึ่งกู้ซื้อบ้าน พึ่งแต่งงาน ลูกกำลังจะคลอด คนพวกนี้ไม่มีทางจะทิ้งงานดีๆแน่
เพราะฉะนั้น พวกเกิดก่อน 1952 นี่หมดสิทธิ์แน่นอน

และในขณะเดียวกัน คุณก็ไม่อยากที่จะเด็กเกินไป
จำกฏ 10,000 ชั่วโมงได้มั้ย คุณควรได้รับการศึกษาและพร้อมพอดีตอนปี 1975
เพราะฉะนั้นตัดพวกเกิดหลัง 1958 ออกไปอีกเหมือนกัน

บางครั้งผมอ่านแล้วก็เศร้านะ ชีวิตคนเรา พยายามเรียนมาดีๆ มันดันผิดเวลาไปแค่นิดเดียว
เฮ้อ timing ของชีวิตมันจบลงจริงๆ - -"

ตัดทิ้งขนาดนี้ งั้นคนที่ใช่ก็ควรอายุ 20-21 ปี คือเกิดปี 1954 และ 1955

มีพวก Microsoft คือ Bill Gates 1955, Paul Allen 1953, Steve Ballmer 1956
Eric Schmidt 1955 คนทำบริษัท Novell ที่จัดว่ามีโปรแกรมสำคัญมากๆบริษัทนึงใน Silicon Valley
ทีม Sun Microsystems มี Bill Joy 1954, Scott McNealy 1954, Vinod Khosla 1955, Andy Bechtolsheim 1955

ส่วน Apple Computer ก็มี Steve Jobs 1955

อ่านแล้วแอบขนลุกนิดๆ มันไม่ใช่ว่าจะต้องเกิดก่อน บ้านรวยเป็นทุนเดิม
แต่มันกลายเป็นความพร้อม และมุมมองของคนรุ่นใหม่ในยุคนั้น
แปลว่า Pattern แบบนี้จะยังมีอีก แต่ว่าเมื่อไหร่ แล้วผมจะมีโอกาสกับเค้าบ้างมั้ยเนี่ยยย

:]
26 พ.ย. 55 / 02:53
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 675044 115.67.229.111

#7# - 675045

แย่หละ ตี 3 แล้ว นอนหละครับ
ผมอาจไม่ได้โพสเรื่องนี้อีก
ลองไปหาที่ร้านหนังสือดูนะครับ
26 พ.ย. 55 / 02:56
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 675045 115.67.229.111

#8# - 675046

พูดถึงยุคสมัยและโอกาส มี AEC อีก 2 ปีข้างหน้า
เมืองเปลี่ยน ธุรกิจเปลี่ยน ความร่วมมือเปลี่ยน กฎหมายการค้าเปลี่ยน โอกาสใหม่เพียบ

ผมว่า 200 กว่าปีที่แล้ว เหล่ากงเหล่าม่าหลายครอบครัวยังไม่ย้ายมากรุงเทพ
ถ้าย้ายมาตอนนั้นคงมีที่แถวสาธร สีลม หลายร้อยไร่ 555+
บางคนคงได้เป็นทายาทเจ้าของธุรกิจพันล้านกันบ้าง

แต่ AEC เนี่ย คือช่วงเปลี่ยนของภูมิภาคจริงๆ
ใครที่เสียดายโอกาสเมื่อ 200 กว่าปีที่แล้วก็ต้องรีบคว้าโอกาสนี้ไว้นะครับ
ทำไว้เผื่อลูกเผื่อหลาน
26 พ.ย. 55 / 03:09
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 675046 115.67.229.111

#9# - 675047

บทต่อๆไปมีพูดเรื่อง IQ ที่บางคนสูงแต่ไม่ได้ประสบความสำเร็จในชีวิตด้วย
เท่าที่ผมอ่าน ยังไม่เจอเค้าพูดถึง EQ ที่ชาวไทยบอกว่าต้องมีเลยด้วย
สรุปคือยังไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันครับ
26 พ.ย. 55 / 03:12
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 675047 115.67.229.111

#10# - 675048

เรื่องบังเอิญ

เมื่อเบอร์ 10 เข้านอนตอนตีสามกว่า ผมก็ตื่นนอนมาอ่านเนต

เรื่องที่รีวิวทำให้ผมตื่น และได้บริโภคอาหารสมอง

ผมมองเห็นโอกาสมากมายของคนรุ่นนี้ ขอเวลาคิดสคริปต์ก่อน แล้วมาแลกเปลี่ยนกัน

ความบังเอิญ บางคนเรียกว่า........
26 พ.ย. 55 / 04:32
0 0

jaguar (6859) : n/a : n/a : n/a

followup id 675048 124.121.145.178

#11# - 675056

ผมไปดูเล่มภาษาไทย ที่ B2S กับนายอินทร์ หมดทุกสาขาหละครับ เค้าบอกไม่พิมพ์แล้ว

ผมว่าที่ทำได้ก็มี 10,000 ชั่วโมงนี่หละ แต่ถึงคนเราจะมีเวลาเท่ากัน 10,000 มันหาได้ไม่ง่ายเลย
เจอรถติด เสียเวลาเดินทาง ทำสิ่งที่ไม่ชอบ เรียนเรื่องที่ไม่ได้ใช้ เล่นเกม ดูหนัง จีบหญิง เดินห้าง - -"
ดูเหมือนพวกนี้ไม่ได้ทำงานพิเศษแบบที่บางคนอยากทำด้วยครับ
เค้าขายทักษะที่ยิ่งทำก็จะยิ่งเก่ง ส่วนเด็กไทยขายแรงงานง่ายๆที่จะถูกเปลี่ยนแทนโดยใครก็ได้

10,000 ชั่วโมงของคนที่เป็นตัวอย่างในหนังสือเป็นการได้ทักษะเฉพาะตัวที่คนอื่นไม่มี
หาได้จากสภาพสังคม สิ่งแวดล้อมที่มีแต่คนเก่ง มีทรัพยากรพร้อม แถมเป็นพร้อมชนิดที่ที่อื่นในโลกไม่มี
ถ้าบิลเกตกับสตีฟจอบเกิดในไทย ผมมั่นใจว่าโลกนี้ไม่มี MS และ iPhone

สมมุติทำ 10,000 ชั่วโมงได้จริง ?
เด่วนี้บริษัทใหญ่ข้ามชาติมีความสามารถบริหารงานข้ามทวีปได้ดีกว่า 50 ปีที่แล้วมาก
ใน emerging market เด่วนี้มีแต่รายใหญ่ที่โผล่ไปก่อนทั้งนั้น - -"

แต่เอาเถอะ ถึงจะไม่เจ๋งที่สุด อย่างน้อย 10,000 ชั่วโมงนี่ ถ้าทำได้จริง ก็มีโอกาสมากกว่าคนรอบข้างอีกหลายๆคนเลยครับ
28 พ.ย. 55 / 06:54
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 675056 115.67.133.84

#12# - 675081

#10 คอยพี่จากั้วอยู่นะครับ ^^

วันนี้ได้คุยเรื่อง 10,000 ชั่วโมง ถึงจะหาเวลาไม่ได้ง่าย
การได้คนสอนเก่ง ฝึกถูกวิธี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีคอนเนกชั่นหรือลู่ทางให้เติบโต
ของพวกนี้ช่วยได้เยอะครับ
01 ธ.ค. 55 / 21:17
0 0

เบอร์10 (7098) : n/a : n/a : n/a

followup id 675081 115.67.165.149

กระทู้นี้ต้องล็อกอินก่อนแสดงความคิดเห็นครับ