[suanboard monotone logo : 2777 bytes]
[header decor line : 64 bytes]
HOME RULE FAVOURITE MEMBER ZONE REACTIVATE FORGET PASSWORD    

SEARCH [icon freecompose : 217 bytes]
[icon register : 195 bytes] สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก : โพสต์รูป, รูปแบบตัวอักษร, ไอคอน, bookmark, ค้นหาข้อความ ฯลฯ [icon login : 178 bytes]

[icon-delete : 101 bytes]
" ข่าวดีของเด็ก(หัว)เกรียน "
นางศิริพร กิจเกื้อกูล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาข้อเสนอในการปรับปรุงกฏหมายเกี่ยวกับแบบทรงผมของนักเรียน นักศึกษา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้คณะทำงานได้พิจารณากรณีที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้รับการร้องเรียนว่า ศธ. กำหนดแบบทรงผมของนักเรียนคือ นักเรียนชายต้องตัดผมสั้นเกรียน และนักเรียนหญิงต้องตัดผมสั้นเห็นติ่งหู กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และบางโรงเรียนได้อนุโลมให้นักเรียนที่เรียนนาฏศิลป์สามาถไว้ผมยาวได้ เป็นการเลือกปฏิบัติ ซึ่งกรรมการสิทธิ์ฯ ได้พิจารณาและเห็นว่าไม่เป็นการจำกัดสิทธิ เพราะมีกฎระเบียบที่โรงเรียนสามารถอนุโลมได้ จึงส่งเรื่องให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบ ซึ่งทาง ครม.ได้ส่งเรื่องต่อให้ ศธ.พิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง

รองปลัด ศธ. กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมคณะทำงานได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องนี้มีกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการส่งเสริมความประพฤตินักเรียนหลายฉบับ ซึ่งเรื่องทรงผมก็เป็นเรื่องหนึ่งและโรงเรียนก็สามารถพิจารณาตามความจำเป็นได้อยู่แล้ว ดังนั้นที่ประชุมจึงมีมติให้ไปรวมกฎระเบียบในฉบับต่างๆ และยกร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ให้เหลือเพียงฉบับเดียว โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และประโยชน์สูงสุดของนักเรียน รวมทั้งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งในเรื่องที่เกี่ยวกับนักเรียน นักศึกษานั้น อาจจะมีการแยกเป็นรายละเอียดของระดับชั้นว่า ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษาควรเป็นอย่างไร โดยมีความยืดหยุ่นให้สถานศึกษาสามารถพิจารณาเป็นรายกรณีได้ ทั้งนี้ให้นำเรื่องดังกล่าวกลับมาเสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาในครั้งต่อไป

ที่มา http://www.siamrath.co.th
06 ธ.ค. 55 / 13:46
0 0
Dax [icon smile : 92 bytes] (6248) : n/a : n/a : n/a
view 2892 : discuss 7 : rating - : bookmarked 0 : vote 2 146.23.250.105

#1# - 675105 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ประเทศ ไทย ที่เดียวในโลก
06 ธ.ค. 55 / 14:33
0 0
Where2U [icon smile : 92 bytes] (2039) : n/a : n/a : n/a
followup id 675105 171.6.162.251

#2# - 675106 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ระเบียบ คือระเบียบ

ก่อนเข้าก็น่าจะรู้แล้วนี่ ว่าเป็นอย่างไร

แต่ก็เถอะ ปรับไห้ดูพองาม ก็OK
06 ธ.ค. 55 / 14:55
0 0
m.... [icon smile : 92 bytes] (6923) : n/a : n/a : n/a
followup id 675106 58.10.171.168

#3# - 675107 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] #2
ระเบียบไร้สาระอย่างนี้ ยกเลิกไปเถอะครับ สวนกุหลาบเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ enforce กฏนี้ อย่างบ้าคลั่งมาก และงี่เง่ามาก

อีกอย่าง ปัญหามันอยู่ที่ กฏนี้มัน centralized มาจากกระทรวง มันไม่ใช่ว่าโรงเรียนแต่ละโรงเรียน กฏ แตกต่างกันไป คนที่ไม่มีตังส่งลูกเรียน นานาชาติ หรือสาธิต ก็ซวย ต้องส่งลูกเรียนโรงเรียนหลวง หัวเกรียน กันไป

ความเห็นส่วนตัว กระทรวงศึกษาธิการ เป็นกระทรวงผลาญงบ ที่ไร้ค่า ครับ ควรปล่อยให้โรงเรียนแต่ละโรงเรียนบริหารจัดการกันเอง แทนที่จะมากำหนด หลักสูตร เงินเดือน บลาบลาๆ
06 ธ.ค. 55 / 16:28
0 0
Annie [icon smile : 92 bytes] (4828) : n/a : n/a : n/a
followup id 675107 128.12.100.198

#4# - 675119 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ถ้าเค้าบังคับถักเปียเถิกหน้าแล้วจะหนาว
07 ธ.ค. 55 / 13:20
0 0
submission [icon smile : 92 bytes] (5409) : n/a : n/a : n/a
followup id 675119 180.183.119.61

#5# - 675163 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ผมทรงนักเรียน
ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์

ผม "ทรงนักเรียน" กำลังจะหายไป เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมทรงนี้ถูกบั่นทอนจากกระทรวงศึกษาเอง

ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กและครอบครัวของกระทรวงประกาศว่า จะยกเลิกระเบียบว่าด้วยทรงผมของนักเรียนแล้วปล่อยให้แต่ละโรงเรียนกำหนด มาตรฐานเอาเอง

ผอ.ของบางโรงเรียนเกรงว่าเด็กจะต่อรองกับทางโรงเรียนไม่มีที่สิ้นสุด สู้ให้กระทรวงออกระเบียบชัดเจนมาเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องมานั่งให้เหตุผลกับนักเรียนให้ยุ่งยาก นับเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ในโรงเรียนมานานแล้ว นั่นก็คือเหตุผลคือความเห็นของอำนาจที่เหนือกว่า

ในขณะที่ ผอ.อีกบางโรงเรียนพอใจกับระเบียบใหม่ เพราะเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและโรงเรียนได้ทำงานใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น อย่างน้อยก็ต้องเชิญผู้ปกครองมาช่วยกันออกระเบียบทรงผม และอีกบางโรงเรียนเห็นว่าระเบียบเก่าล้าสมัยเกินไป สมควรแล้วที่จะแก้ระเบียบเสียใหม่ แต่ก็ไม่อยากให้เด็กเอาใจใส่กับทรงผมเสียยิ่งกว่าบทเรียน

แต่ที่จริงแล้ว "ทรงนักเรียน" ที่ใช้บังคับมาหลายสิบปีนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับผมบนหัวอย่างเดียว แต่เกี่ยวกับโลกทรรศน์ที่ต้องการปลูกฝังลงไปใต้หนังหัวของนักเรียนด้วย

โลกทรรศน์ดังกล่าวนั้นมีอยู่สองประการ

1. "ทรงนักเรียน" ทำลายลักษณะปัจเจกของนักเรียนแต่ละคนลง เพราะทุกคนแต่งกายและไว้ผมเหมือนกันหมด ความเป็นตัวเขาคือเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เรียกว่า "นักเรียน" อันเป็นกลุ่มทางสังคมที่สถาปนาขึ้นมา โดยสมาชิกไม่ได้มีความสมัครใจ แต่ถ้าเขาไม่สังกัดอยู่ในกลุ่มนี้ เขาก็จะสูญเสียตัวตนของตัวไปอย่างสิ้นเชิงเหมือนกัน

2. สัมพันธ์กับข้อหนึ่งอย่างแยกกันไม่ออก ความเป็นระเบียบ,ความเหมาะสม,ความสวยงาม และความถูกต้องเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่หรืออำนาจเป็นผู้ตราขึ้น นักเรียนต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังความเห็นของอำนาจ เราใช้ "ความเป็นนักเรียน" เป็นกลไกสำคัญของการควบคุมทางสังคม(Social control) และในการควบคุมทางสังคมนั้นเราใช้เหตุผลน้อย แต่ใช้อำนาจมาก

การปล่อยเสรีด้านทรงผมเพียงอย่างเดียวจึงไม่พอ ไม่พอแม้แต่จะใช้เป็นสัญลักษณ์ของการปฏิรูปการศึกษา

ความห่วงใยของผู้บริหารโรงเรียนบางแห่งว่า เด็กนักเรียนจะสนใจการแต่งตัวยิ่งกว่าเรียนหนังสือ ถ้าปล่อยให้เด็กแต่งผมได้ตามใจชอบ เป็นเรื่องของความวิตกต่อปัจเจกที่หลุดจากการควบคุมของอำนาจ

แต่เราสามารถสร้างความสามารถที่จะคิดเองด้วยเหตุผลให้แก่นักเรียนขึ้นมาแทนที่อำนาจได้

นักเรียนคงไว้ทรงผมที่แตกต่างกันตามแต่รสนิยมส่วนตัวของนักเรียนแต่ละคนจนไม่มี "ทรงนักเรียน" อีกต่อไป แต่นักเรียนสามารถรู้ความสำคัญของทรงผมในชีวิตของตัวว่ามีแค่ไหน อุทิศเวลาและทรัพย์ให้แก่ทรงผมในระดับที่พอเหมาะสมควร

ระบบการศึกษา ได้ทำอะไรเพื่อเพิ่มความสามารถของนักเรียนในแง่นี้บ้างหรือ ไม่เฉพาะแต่การพิจารณาเรื่องการแต่งกายแต่แทรกเข้าไปในกระบวนการเรียนรู้ ทั้งหมดของนักเรียน

มิฉะนั้นการปลดปล่อยนักเรียนจากความเป็นทาสของ "ทรงนักเรียน" จะมีความหมายแต่เพียงการหยิบยื่นนักเรียนไปสู่ความเป็นทาสของแฟชั่นเท่านั้น

อันที่จริงความเป็นปัจเจกอย่างสมบูรณ์นั้นไม่มีจริงในโลก มีอยู่แต่ในแนวคิดเท่านั้น มนุษย์ทุกคนมีความผูกพันทางใจหรือทางกายกับคนอื่นๆ ด้วยกันทั้งนั้น โรงเรียนเคยทำลายความเป็นปัจเจกของนักเรียนลง แล้วเอานักเรียนมาผูกพันอยู่กับกลุ่มแคบๆ คือความเป็นนักเรียนของโรงเรียนเท่านั้น แต่การควบคุมทางสังคมซับซ้อนกว่านั้นมาก เยื่อใยความสัมพันธ์กับกลุ่มต่างๆ ในสังคมควบคุมพฤติกรรมของคนได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าโรงเรียน

ฉะนั้น ในกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนต้องเป็นไปโดยความผูกพันอยู่กับกลุ่มทางสังคมอย่างน้อยสามกลุ่มอีกด้วยนั่นก็คือครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวม

คำถามก็คือในหลักสูตร,ในวิธีการสอน,ในประสบการณ์ต่างๆ ที่โรงเรียนจัดให้นักเรียน มีส่วนมากน้อยแค่ไหนในการฟื้นฟูและสร้างความสัมพันธ์ของนักเรียนกับกลุ่ม ทั้งสามนี้ เช่นครอบครัวมีบทบาทอย่างไรในกระบวนการเรียนรู้ นักเรียนเคยถูกพาไปเรียนรู้ร่วมกับชุมชนบ้างไหม มิติทางสังคมเคยถูกนำมาพิจารณาในการเรียนวิชาต่างๆ บ้างไหม เป็นต้น

หรือเราสอนให้เด็กคิดถึงแต่ตัวเอง คือเน้นปัจเจกภาพ แต่ควบคุมเด็กโดยบังคับให้รวมกลุ่มไว้ภายใต้การบัญชาของโรงเรียน ถ้าอย่างนั้นการปล่อยเสรีในเรื่องทรงผมก็อาจมีอันตรายต่างๆ อย่างที่ครูบางท่านวิตกห่วงใยอยู่จริง

เช่นเดียวกับความเชื่อฟัง อำนาจ ตราบเท่าที่นักเรียนไม่ได้รับการส่งเสริมให้ตั้งคำถามกับอำนาจ ความเชื่อฟังนั้นก็เป็นไปด้วยความกลัวเท่านั้น อย่างที่นักเรียนแปลงทรงผมของตัวเมื่อออกจากโรงเรียนในทุกวันนี้ การตั้งคำถามกับอำนาจหมายถึงความเห็นที่หลากหลาย และยากที่จะหาข้อสรุปตรงกันเป็นหนึ่ง ระบบการศึกษาของเราต้องการความเห็นที่หลากหลายหรือต้องการคำตอบสำเร็จรูปที่ เป็นหนึ่ง

ถ้ายังป้อนคำตอบสำเร็จรูปที่เป็นหนึ่งอยู่ ก็หลีกเลี่ยงได้ยากที่จะต้องใช้อำนาจบังคับให้รับคำตอบนั้นๆ และด้วยเหตุดังนั้น ก็มีทางเป็นไปได้ที่นักเรียนจะใช้เสรีภาพที่ตัวได้มาไปในทางที่เป็นอริกับ การเรียนรู้

เสรีภาพนั้นจะใช้ได้เป็นก็ต่อเมื่อมีเสรีภาพให้ใช้หนึ่ง และมีการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้เสรีภาพนั้นอีกหนึ่ง

ปฏิรูปการศึกษานั้นเป็นองค์รวม เราไม่อาจแยกมาตรการใดมาตรการหนึ่งขึ้นมาผลักดันโดดๆ โดยไม่มองความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันของมาตรการนั้นๆ กับสิ่งอื่นๆ ทั้งหมดในกระบวนการเรียนรู้ได้

มติชน 16 มิ.ย 46
13 ธ.ค. 55 / 14:26
0 0
doqmtbc [icon smile : 92 bytes] (7762) : n/a : n/a : n/a
followup id 675163 203.144.144.164

#6# - 675169 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] อ่านแล้วอึ้งตรงที่ว่า ... ถ้ายกเลิกทรงนักเรียนจริง

ย้อนไปหลายสิบปีที่อาจารย์ทั้งประเทศคอยตรวจทรงนักเรียนเพราะเป็นสิ่งที่ถูกระเบียบ
พอโดนกระทรวงเปลี่ยนกฎทันที ทุกอย่างที่ทั้งครูและนักเรียนทำมาเหมือนทำไปทำไม

ดูเหมือนกฎระเบียบที่บังคับกันแทบตายเนี่ย
จริงๆมันไม่มีอะไรนอกจากมีคนเริ่มบอกให้ตัดทรงนักเรียน ครูก็คอยตรวจคอยบังคับ เด็กก็ทำตาม
พอบอกว่ายกเลิกทรงนักเรียน แล้วผมมองย้อนกลับไปในอดีต เลยรู้สึกอยากตะโกนถามคนสมัยนั้นว่า

ทำบ้าอะไรกันวะ?

ไม่ใช่ทำบ้าอะไรกันวะเรื่องไล่ตรวจผมนะ แต่ที่ตะโกนถามคือคนเราเชื่ออะไรกันอยู่
มันเป็นความรู้สึกเจ็บลึกๆที่คนเรา เชื่อ ยึดติด และพยายามทำสิ่งที่คิดว่าถูกต้องมาตลอด
แล้วซักวันมีคนมาบอกว่ามันไม่ใช่สิ่งจำเป็นต้องทำ มันไม่ได้ถูกเรียกว่าถูกต้องอีกแล้ว

มันทำให้ผมรู้สึกแย่เพราะเราไม่ได้ถูกบังคับให้ทำสิ่งที่ดี ห้ามทำสิ่งที่ไม่ดี
แต่เราถูกบังคับให้ทำตามคนที่เกิดก่อน คนที่มีอำนาจมากกว่า
มีคนที่คอยบอกเราว่าอะไรคือถูก อะไรคือผิด และเราต้องทำตามอย่างไม่มีเหตุผล

จะมาบอกว่าการศึกษาเราเจริญไม่ได้หรอกถ้ายังยืนอยู่บนบางสิ่งที่ไร้เหตุผล :(
14 ธ.ค. 55 / 00:36
1 0
เบอร์10 [icon smile : 92 bytes] (7098) : n/a : n/a : n/a
followup id 675169 115.67.34.2

#7# - 675174 [icon-addtodelete : 101 bytes]
[member icon] ถ้ามองในแง่จิตวิทยา การควบคุมเรื่องทรงผมมันหมายถึงการกดแบบให้รู้ว่าใครใหญ่อะ ทหารเกณฑ์ นักเรียนทหาร บางสถาบัน ปี1ต้องไว้หัวเกรียน เพราะรุ่นน้องปี1ต้องเชื่อฟังอ่อนน้อมถ่อมตน ห้ามลุกขึ้นมาโต้แย้ง ถ้าต้องการให้คนในปกครองหรือรุ่นน้องมีความเชื่อฟังไม่กล้าหือใส่รุ่นพี่ มักจะมีระเบียบให้ไว้หัวเกรียน เพราะหัวเกรียนกับความเชื่อฟังและอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นของคู่กัน

สถาบันไหนที่เคร่งระเบียนวินัยอย่างมาก นักเรียนในสถาบันนั้นมักถูกควบคุมด้วยทรงผมและเครื่องแต่งกาย เพราะทรงนักเรียนเป็นสิ่งที่สร้างความเหมือนกันในสถาบัน
14 ธ.ค. 55 / 10:51
0 0
doqmtbc [icon smile : 92 bytes] (7762) : n/a : n/a : n/a
followup id 675174 203.144.144.164


กระทู้นี้ต้องล็อกอินก่อนแสดงความคิดเห็นครับ

[icon login : 178 bytes]